1. เพียงแค่หยุดคิด ก็ดูสบายขึ้นเยอะ
อย่าเป็นคนที่มองโลกในแง่ลบ มากเกินไป โดยเฉพาะเมื่อมีคนมาทำให้เราไม่สบายใจ
อย่าแสดงออกกับพวกเขา ด้วยการโจมตีหรือ การพูดในเชิงลบ ลองหยุดคิดและหายใจเข้าลึกๆ
โดยการที่เราหยุดคิดหรือตัดสินเขาในแง่ลบ แล้วให้เวลากับตัวเองในการทบทวนว่าสิ่งที่เขาทำนั้นผิดจริงไหม
เขาเป็นคนแบบนั้นจริงๆหรือเปล่า หรือแค่ในสถานการณ์ที่รู้สึกกดดันจึงทำให้เขาแสดงออกแบบนี้
โดยการหยุดคิดจะทำให้เรารู้สึกโกรธน้อยลง และจิตใจสงบมากขึ้น ซึ่งไม่ใช้แค่ตัวเราเท่านั้น
แต่ยังหมายถึงคนอื่นๆ ที่กำลังรู้สึกโกรธด้วย ซึ่งคนส่วนใหญ่นั้นต้องการเวลาและพื้นที่ส่วนตัวในการคิดทบทวน
2. เคารพในความแตกต่างของแต่ละคน
คนที่คิดแตกต่างจากเราไม่ได้เป็นคนที่ผิด ทุกคนมีสิทธิที่จะมีความคิดเป็นของตัวเอง
ดังนั้นเราจึงควรพยายามเรียนรู้ และเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
โดยอาจจะมีการแสดงความคิดเห็นส่วนตัวบ้าง ในบางครั้
ง ซึ่งในชีวิตจริงนั้นเราจะต้องมีการติดต่อสื่อ ส า ร กับผู้อื่นตลอดเวลา
บางครั้งเราก็รู้สึกเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับบางคน แต่เราก็ต้องพึงนึกคิดไว้เสมอว่าเราจะเป็นกลาง
และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น หรือในกรณีที่เรารู้สึกว่าคิดเห็นไม่ตรงกัน
ก็ควรพูดโต้ตอบอย่างสุภาพ ซึ่งก็จะทำให้ผู้ฟังไม่รู้สึกโกรธ
และงานนั้นก็สามารถดำเนินต่อไปได้เมื่อกำลังรู้สึกเหมือนกับว่า กำลังโกรธ
หรืออารมณ์เสีย ลองหายใจยาวๆ สูดหายใจลึกๆ จะช่วยลดความตึง เ ค รี ย ด
ลดการปะทะคารม และทำให้รู้สึกผ่อนคลายลดความกังวลลงไป
และเราควรที่จะหันมาสนใจเอาใจใส่กับผู้อื่น และปฏิบัติตนต่อผู้อื่นในทางที่ดี ในทุกๆสถานการณ์
3. มีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
ยุคสมัย แห่งความวุ่นวายในปัจจุบัน ประชาชนเริ่มมีแนวโน้มที่มีความกังวล
ความกลัว ความ เ จ็ บ ป ว ด และการไขว้เขวต่อสิ่งต่างๆรอบตัว
และหากจะต้องมีการพูดคุย หรือปฏิสัมพันธ์กันบุคคลอื่น
ในสถานการณ์ที่ตึง เ ค รี ย ด ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความโกรธ ความไม่พอใจ
หรือขั้นปะทะกันได้ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงด้วยการเอาใจ เขามาใส่ใจเรา
เพราะในความเป็นจริงแล้วเราไม่รู้เลยว่าแต่ละคนนั้นเจออะไรมาบ้างในชีวิต
ให้พื้นที่ส่วนตัวเพื่อที่ว่าเขาจะได้มีเวลาคิดและไม่ไปกดดัน
รวมทั้งบอกกับตัวเองว่าอย่าไปคาดหวัง ตัดสิน หรือต้องการให้คนอื่นเป็นอย่างที่เราต้องการ
4. มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และความเมตตากรุณา
ทุกๆ คน มักจะอารมณ์เสีย หรือขาดการควบคุมอารมณ์ของตัวเองในบางครั้ง
ซึ่งนั่นเป็นการเตือนตัวเองว่าทุกๆ คน ก็เหมือนกันตรงที่ก็เคยอารมณ์เสีย
ซึ่งหากต้องการที่จะให้การตัดสินใจนี้ง่ายขึ้นก็แค่เติมคำว่า “เหมือนกับฉันในบางครั้ง”
ในตอนท้ายของประโยค ยกตัวอย่างเช่น คนคนนั้นขี้บ่น เหมือนกับฉันในบางครั้ง
หรือเขาดูไม่มีความอดทนเลย เหมือนกับฉันในบางครั้ง เป็นต้น
5. อย่าไปนำคำพูด การกระทำต่างๆ หรือนิสัยของคนอื่นมาใส่ใจ
ซึ่งหากเราคิดมากเกี่ยวกับทุกๆ สิ่ง ที่เข้ามาในชีวิตของเรา ชีวิตของเราก็จะไม่มีความสุข
ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลยเพราะในบางครั้งเขาก็ทำเพื่อเราและบางครั้ง
เขาก็ทำเพื่อตัวเขาเอง ซึ่งเราไม่สามารถที่จะไปควบคุมให้เขาคิดหรือทำในแบบที่เราต้องการได้
แต่เราสามารถที่จะเปลี่ยนแปลง ความคิดของตัวเองได้ โดยการปล่อยมันไป
ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเป็นอิสระมากที่สุด โดยการที่เราไม่เอาตัวเองไปยึดติดกับนิสัยหรือการกระทำของคนอื่น
6. เรียนรู้ที่จะไม่พูดตอบโต้
พยายามอย่าไป อยู่ในสถานการณ์ที่มีการโต้เถียงโดยไม่จำเป็น
เพียงเพราะแค่รู้สึกอยากจะพูด พยายามหายใจเข้า – ออกลึกๆ
เพราะในความเป็นจริงความเงียบของเรา ในช่วงเวลาที่โกรธนั้น
สามารถทำให้เราเป็นเหมือนผู้ชนะในการโต้เถียงครั้งนี้ได้เลย
เพราะว่าคนที่เราโต้เถียงด้วยนั้น มักจะทำให้เรารู้สึกถึงความเสียใจ
ก้าวร้าว และแสดงพฤติกรรมอย่างไม่เหมาะสม แต่ถ้าหากเราเงียบ
และไม่ตอบโต้ ก็จะทำให้สถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้น
7. หากิจกรรมทำในยามเช้าให้เป็นกิจวัตรประจำวัน
ตื่นเช้าขึ้นมาอย่าเพิ่งรีบจับโทรศัพท์ หรือเช็กอีเมล เพราะว่าจะเป็นการ
ที่พาตัวเองไปสู่ความวุ่นวายตั้งแต่ตื่นนอน ซึ่งเป็นช่วงที่เรายังไม่สามารถจัดการอารมณ์ตัวเองดี
หากเจอกับสถานการณ์ที่ทำให้เรา เ ค รี ย ด ก็อาจจะทำให้เรา เ ค รี ย ด ทั้งวัน
ลองให้ช่วงเวลาเช้ากับตัวเองในสถาน ที่ที่เงียบสงบ ก็จะพร้อมรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน
ยกตัวอย่าง สูตรหายใจลึกๆ ก่อน ที่จะลุกจากเตียง และลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย และทำสมาธิเป็นเวลา 10 นาที เป็นต้น
8. เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเองในการรับมือกับปัญหา
หากเราเผชิญ กับความ เ ค รี ย ด ผู้คนส่วนใหญ่มักแก้ปัญหาด้วยการเลือก
ทำในสิ่งที่ส่งผล ร้ า ย ต่อตัวเอง เช่น การ ดื่ ม แ อ ล ก อ ฮ อ ล์ การ สู บ บุ ห รี่ เป็นต้น
แต่หากเราลองเปลี่ยนเป็นการไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ ชงชา
กาแฟและนั่งอยู่กับตัวเองเงียบๆ ฟังเพลงที่ชอบ
เขียนบันทึกประจำวันของตัวเอง หรือการพูดปัญหาของตัวเองกับเพื่อนสนิท
9. พยายามเตือนตัวเองให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง
นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ที่ตัวเองได้ทำ โดยนึกถึงเหตุการณ์ดีๆอย่างน้อยสามข้อที่ได้เจอ
หรือทำในแต่ละวัน เช่น วันนี้ได้หัวเราะแล้ว วันนี้ได้กลับบ้านเจอคนในครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา
ได้ทาน อ า ห า ร เต็มอิ่ม เป็นต้น และถ้าหากมีโอกาสก็ควรที่จะ แ บ่ ง ปั น ความรู้สึกดีๆ ของเราให้กับผู้อื่นด้วย
โดยการคิดดี พูดจาไพเราะและการทำดีกับผู้อื่น เพราะว่าการมีความเมตตากรุณา
หรือการเป็นมิตรกับผู้อื่น นั้นจะทำให้เราและคนรอบข้างเรารู้สึกสบายใจและมีความสุข
ที่มา : s a n o o k