
ในปัจจุบันครอบครัวยุคใหม่นิยมมีลูกเพียงคนเดียว เพราะอย ากที่จะทุ่มเทความรัก
และความห่วงใยให้กับลูกอย่ างเต็มที่ ด้วยการเน้นให้ลูกมีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย
เพราะไม่อย ากให้ลูกต้องลำบาก โดยพ่อแม่มีหน้าที่หาเงินให้ลูกใช้ คอยดูแลทุกเรื่อง
เพื่อให้ลูกตั้งใจเรียนเพียงอย่ างเดียว จึงกลายเป็นว่าเด็กหลายคนเคยชินกับ
การได้รับจากพ่อแม่ฝ่ายเดียว จนไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ ตัดสินใจเองไม่เป็น
และไม่มั่นใจในตนเอง เมื่อโตขึ้นก็กลายเป็นคนรักสบาย ไม่รู้จักการขวนขวายดิ้นรน
ซึ่งปัญหาลักษณะนี้มักพบในครอบครัวที่มีฐานะดี ที่พ่อแม่มีความพร้อม
ในการสนับสนุนให้ลูกทุกด้าน ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่อย ากให้ลูกรู้จักพึ่งพาตัวเองได้ จึงควร
ส่งเสริมให้ลูกได้รู้จักช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่ยังเล็กเพื่อให้เขาสามารถ
ดำรงชีวิตด้วยตัวเองต่อไปได้ในวันที่ไม่มีพ่อแม่อยู่เคียงข้าง
1. สอนให้ลูกช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก
โดยเริ่มจากเรื่องง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น เก็บของเล่นเข้าที่เมื่อเล่นเสร็จ
ถอดเสื้อผ้าที่ใส่แล้วลงตะกร้า เดินเอาจานไปเก็บเมื่อกินเสร็จ โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอย
ส่งเสริมและดูแลใกล้ ๆ เมื่อลูกทำได้ก็ควรชื่นชม เพื่อเป็นแรงเสริมให้เด็กอย ากช่วยเหลือตัวเองต่อไป
2. ไม่ควรใช้คำพูดในเชิงลบเพื่อกร ะตุ้ นให้ลูกช่วยเหลือตัวเอง
เช่น “แค่นี้เองทำไมทำไม่ได้” หรือ “คนอื่นยังทำได้เลย” เพราะจะยิ่งทำให้ลูกรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง
ควรมีการเสริมแรงด้วยคำพูดในเชิงบวก เช่น “ลูกต้องทำได้แน่ ๆ คนเก่ง”
จะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เด็กเป็นอย่ างดีการพัฒนาความสามารถ
ในการพึ่งตนเองให้กับเด็กเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะนำไปสู่ความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต
ซึ่งควรได้รับการฝึกอย่ างต่อเนื่องและเหมาะสมเพื่อให้เด็กสามารถเติบโต
เป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักทำประโยชน์ต่อตนเองและสังคมได้
3. คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกทำสิ่งต่าง ๆ ตามความสามารถและความสนใจของเด็ก
โดยเฉพาะเด็กในวัย 2 – 6 ขวบ ที่เริ่มอย ากเรียนรู้ สำรวจ และทดลอง
ทำอะไรด้วยตนเอง หากลูกขอช่วยล้างจาน ขอช่วยทำสิ่งต่าง ๆ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรให้เขา
ได้ลองทำเพื่อให้ลูกได้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง มีความมั่นใจในตนเอง
ซึ่งจะนำไปสู่ความสามารถในด้านต่าง ๆ ที่เป็นการพึ่งพาตนเองได้
4. ฝึกให้ลูกรู้จักการทำงานอย่ างมีระบบ
โดยให้ลูกทำงานทีละอย่ างด้วยความตั้งใจ และคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยดูแล
ลูกอย่ างใกล้ชิดพร้อมให้คำแนะนำ ที่สำคัญไม่ควรสั่งงานอื่นแทรก เพราะจะทำให้เด็ก
เกิดความสับสนและจัดลำดับความสำคัญของงานไม่เป็น
5. มอบหมายงานให้ลูกทำ
เพื่อฝึกความรับผิดชอบ เช่น ในเด็กเล็กวัย 1- 3 ขวบ ที่เริ่มเข้าใจคำสั่งง่าย ๆ
คุณพ่อคุณแม่อาจสอนให้เขาถือผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ใช้แล้วไปทิ้งขยะทุกครั้ง เมื่อลูก
ได้รับคำสั่งซ้ำ ๆ เดิม ๆ ก็จะเกิดความคุ้นชิน ทำให้ครั้งต่อ ๆ ไป เมื่อถอดผ้าอ้อมสำเร็จรูปออก
ลูกก็จะถือไปทิ้งขยะเองโดยไม่ต้องมีใครบอก และเมื่อโตขึ้นก็อาจ
จะมอบหมายให้ทำอย่ างอื่นที่ย ากขึ้นต่อไป การที่เด็กได้รับการส่งเสริมให้พัฒนาตามธรรมชาติ
และวัยของเด็กจะเป็นแรงกร ะตุ้ นที่ดี ทำให้เขาเกิดความมั่นใจต่อตนเอง
มีความรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า และมีกำลังใจในการทำตนเองให้มีประโยชน์ต่อไป
ที่มา : t r u e p l o o k p a n y a