
15 ข้อ ทำได้ชีวิตคุณจะง่ายขึ้น
1. คุณกับคู่รักของคุณ ทะเลาะกันน้อยกว่าที่เป็น
การมีความสัมพันธ์ กับคนรักนั้น มักตามมาด้วยความขัดแย้ง การทะเลาะ การผิดใจกัน และเราก็ต้องยอมรับว่าหลายๆ คร้ังมันบั่นทอนชีวิตของเราอยู่พอสมควร ลองไปดูบรรดาคนที่ทะเลาะกับแฟน หรือกำลังดราม่ากับคนรักสิครับ เรารู้สึกเลยว่า ชีวิตมันย่ำแย่เอามาทีเดียวทั้งที่จริงๆ การมีความรักน่าจะเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ ผมกับภรรย าเอง ก็เคยมีช่วงเวลาดังกล่าวที่รู้สึกเหนื่อยกับปัญหาระหว่างกัน มันทำให้อะไรรอบข้างก็ดูแย่ไปเสียหมด
แต่พอเราเริ่มปรับกั นให้ลงตัว ทะเลาะกันน้อยลง และพย าย ามมีความสุขกับชีวิตที่เรามี ผมยอมรับเลยว่า มันเป็นชีวิตคู่ที่มีความสุขมากๆ (แม้ว่าหลายๆ อย่ างอาจจะไม่สมบูรณ์พร้อมหรือน้อยกว่าหลายๆ คู่ก็ตาม) เช่นกันครับ การที่คุณสามารถประครอง ความสัมพันธ์ของคุณให้ไม่ต้องทะเลาะกัน มีความสุขด้วยกัน มันก็ดีแค่ไหนแล้วล่ะครับ
2. คุณไม่ต้องมีเงินมากมาย แต่คุณก็สามารถมีชีวิตที่ “ร่ำรวย” ได้
คำว่า “รวย” สำหรับหลายๆ คนคือ การมีเงินมากมาย มีบัญชีหลายสิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน แต่การบอกว่าใช้ชีวิตแบบ “ร่ำรวย” อาจจะไม่ต้องใช้เงินมา กขนาดนั้นก็ได้ ลองคิดกลับว่าถ้าคุณไม่ได้รวยมาก การที่คุณสามารถกินอาหารดีๆ ในร้านอาหารกลางๆ แทนที่จะต้องกินอาหารข้างทาง คุณสามารถหาเสื้อผ้าดีๆ ใส่ได้แม้ว่าจะไม่ใช่ แ บ ร น ด์ เ น มดัง แต่ก็ดีกว่าใส่เสื้อผ้าขาดๆ เปื่อยๆ มันก็ดีแค่ไหนแล้ว
การตีความของคำว่า “ชีวิตร่ำรวย” ไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณมีเงินเท่าไร แต่มันอยู่ที่คุ ณใช้เงินอย่ างไร และคุณรู้สึกกับมันแค่ไห น แม้คุณจะไม่ได้มีเงินพันๆ ล้าน แต่คุณก็สามารถใช้ชีวิตแบบ “ร่ำรวย” ในแบบของคุณได้แหละน่า
3. คุณไม่กลัวกับการที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น
สำหรับหลายๆ คน การเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ เป็นเรื่องที่หนักปากเอามากๆ ส่วนหนึ่งเพราะ บางคนมีความคิดว่าตัวเองดีเลิศ สมบูรณ์แล้ว การขอความช่วยเหลือเป็นเหมือนกับการบอกว่าตัวเองพ่ายแพ้ แย่ ฯลฯ ทั้งที่จริงๆ แล้วมนุษย์เราก็ไม่มีใครสมบูรณ์พร้อมไปหมดทุกอย่ าง
การที่คุณยอมรับว่าตัวเองมีปัญหาและแก้ไขเองไม่ได้ก็ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่ทำให้คุณได้เผชิญหน้า กับความจริงของตัวเอง แทนที่จะทนฝืนและหลับหูหลับตาหลอ กตัวเองไปเรื่อยๆ ฉะนั้นอย่ากลัวที่ตัวเองจะมีปัญหา (เพราะ มันเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว) และถ้าคุณแก้ไม่ได้ คุณก็ควรกล้าจะยกมือบอกคนอื่นๆ
4. คุณมีที่อยู่ที่เป็น “บ้าน”
หลายคน มีบ้าน แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเป็น “บ้าน” อย่ างที่มันควรจะเป็น ทั้งนี้เพราะตัวบ้านกับความรู้สึกของความเป็นบ้านเป็นคนละเรื่อง กัน ฉะนั้นแล้ว ถ้าเมื่อไรก็ตาม ที่คุณรู้สึกว่าบ้านที่คุณอยู่มันเป็น “บ้าน” จริงๆ แล้วก็ล่ะก็ ควรดีใจไว้เถอะครับเพราะ คนจำนวนไม่น้อยไม่ได้รู้สึกอย่ างนั้นเลย
5. คุณยกมาตรฐานของคุณให้สูงขึ้น
สิ่งหนึ่ง ที่ทำให้คนเราไม่ได้ก้าวไปไหน คือการย่ำอยู่บนความสำเร็จหรือกรอบเดิมๆ ที่ตัวเองวางไว้ ประมาณว่า ตัวเองทำได้เท่านี้ดีแล้ว ก็จะทำแบบนั้นต่อไปโดยวางไว้ว่านั่นคือมาตรฐานการทำงานของตัวเอง
แต่คนที่ประสบความสำเร็จมักจะมีการประเมิน และยกมาตรฐานของตัวเองอยู่เรื่อยๆ ทั้งนี้เพราะ การยกมาตรฐานตัวเองนั้นจะทำให้พวกเขาได้มีโอกาสในการพัฒนาความสามารถอยู่เสมอนั่นเอง
6. คุณปล่อยมื อจากสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกไม่ดี
วิธีการเดียวที่จะทำให้ความทุกข์หลุดออกจากตัวคุณได้ก็คือ การปล่อยมันไป เพราะเอาจริงๆ ที่คุณยังทุกข์อยู่นั้นก็เพราะ คุณยังยึดติดกับมัน ยังไม่ปล่อยมันออกจากความคิดของตัวเอง มันเหมือนกับเรื่องเล่า ที่ผมชอบมาก ถ้าคุณกำดินสอ แล้วยกขึ้น คว่ำมือลง จะมีวิธีไหนบ้าง ที่คุณจะให้ดินสอออกจากมือ? มันก็คือแค่การที่คุณแบมือออกนั่นแหละ ดินสอ ก็จะตกไปจากมือคุณแล้ว ความทุกข์
และเรื่องราวไม่ดีต่างๆ มันก็เหมือนดินสอในมือคุณแหละครับ ที่มันยังอยู่ในมือคุณก็เพราะคุณกำมันไว้ ไม่ยอมปล่อยเสียที การที่คุณกล้าจะปล่อยมือ จากมันก็จะทำให้ชีวิตคุณหลุด จากบ่วงความทุกข์เดิมๆ ไป ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่แสนดี เลยใช่ไหมล่ะครับ
7. คุณมีช่วงเวลาดีๆ ให้คุณได้ชื่นช มเวลามองตัวเองในกระจก
อะไรจะดีไปกว่า การที่คุณสามารถมองตัวแล้ว ชื่นชมกับตัวคุณเอง (แต่ไม่ใช่หลงตัวเองนะ) เพราะมันคือ การที่คุณมองเห็นคุณค่าในตัวคุณเอง รู้สึกได้ว่าชีวิตของคุณมี ความงดงาม ในแบบที่คุณตัวเองรู้สึกได้โดยไม่ต้องรอให้คนอื่นมาตัดสิน
การเริ่มยิ้มให้กับตัวเอง ภูมิใจกับตัวเอง เป็นความสำเร็จที่คุณสร้างได้ด้วยตัวเองที่สำคัญมากๆ ถ้าคุณทำได้วันนี้ ก็เป็นเรื่องน่ายิน ดีมากๆ เลยล่ะครับ (แต่ก็ยังย้ำนะฮะว่ามันต่างจากการหลงตัวเองนะครับ)
8. คุณลดการตั้งอคติ และมองหาการคิดแง่บวก
การตั้งอคติ เป็นธรรมชาติของคนจำนวนมาก (ผมเองก็ยังเป็นๆ เลยในบางครั้ง) เช่นเดียวกับ การชอบวิจารณ์ต่างๆ นานาโดยไม่รู้ตัว หลายๆ ทีมันนำไปสู่การตั้งทัศนคติแง่ลบให้กับทุกๆ อย่ างรอบตัวคุณ ซึ่งมันจะแย่มาก หากเกิดเป็นนิสัยประจำตัว
แน่นอนว่า ถ้าคุณรู้ตัวและพย าย ามเลิกนิสัยนั้นพร้อมกับ เปิดใจมองทุกอย่ างไปในแง่บว กมากขึ้น มันก็เป็นความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะ มันจะทำให้ชีวิตของคุณเป็นแง่บวกมากกว่าเดิมเยอะเลยครับ
9. คุณเรียนรู้และยอมรับได้ว่าความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาตัวเอง
เราพูดกันเสมอๆ ว่าความผิดพลาด เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในอนาคต คนที่เก่งคือคนที่เรียนรู้จากความผิดพลาด แต่ในความเป็นจริงน้อยคนจะยอมรับ และเข้าใจเรื่องนี้จริงๆ เพราะคนส่วนมากจะเลือกจมอยู่กับความผิด บ้างก็ไม่ยอมรั บความผิดพลาดนั้น ทั้งที่จริงๆ แล้วถ้าคุณเปิดใจยอมรับมัน คุณก็จะประสบความสำเร็จในการมีวัตถุดิบ และบทเรียนชีวิตชั้นดีอยู่ในมือเลยล่ะครับ
10. คุณมีคนที่คอยสนับสนุนคุณในทุกๆ เรื่อง
การมีกัลย าณมิตร เป็นทรัพย์ประเสริฐที่มีเงินมากมายก็ยังหาซื้อกันไม่ได้ ยิ่งการมีคนที่คุณสามารถพึ่งพาเขาได้ในย ามย าก มีคนที่คุณรู้ว่าเขาจะสามารถช่วยคุณได้ในทุกๆ เรื่อง พร้อมจะทำทุกๆ อย่ างเพื่อคุณ (แต่อาจจะไม่ต้องเป็นคนๆ เดียวก็ได้นะ) มันก็ถือว่าเป็นอะไรที่สุ ดจะประเสริฐในชีวิตแล้วล่ะครับ
11. คุณได้ยิน “ฉันรักคุณ” อยู่บ่อยๆ จากเพื่อน และคนรัก
หลายคนอาจจะบอกว่า การพูดบ่อยๆ มันเป็นเรื่องเฝือ หรือพูดจนไร้ความหมาย แต่อันที่จริงแล้ว ถ้าคนที่เขาแคร์คุณ และจริงจังกับคุณ แม้ว่าเขาจะพูดบ่อยแค่ไหนมันก็มีความหมายในทุกๆ ครั้งที่พูดนั่นแหละ ฉะนั้น ยิ่งถ้าคนที่คุณรัก คนที่คุณแคร์เขาพูดกับคุณบ่อยๆ นั้น มันก็เป็นเรื่องที่ดีเอามากๆ ซึ่งน้อยคนจะมีโมเมน ต์แบบนั้นนะครับ
12. คุณรับได้ในสิ่งที่ คุณเปลี่ยนแปลงไม่ได้ และคุณเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่คุณรับไม่ได้
จริงอยู่ว่าคนเรามีความสามารถ และทางเลือกมากมาย แต่ไม่ใช่ว่าคุณจะจัดการได้ทุกสิ่ง การที่คุณเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่นอกเหนือการควบคุมของคุณ และยอมรับมันได้ ก็คือความสำเร็จอย่ างหนึ่งของคุณแล้ว เช่นเดียวกับ การที่คุณรู้ว่าอะไรที่คุณสามารถเลือกและสร้างการเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ยอมแพ้กับสิ่งที่คุณไม่ต้องการ
หากมันสามาร ถทำได้ คุณสามารถแก้ไขมันได้ มันก็จะดีถ้าคุณเลือกจะลุกขึ้นมา เปลี่ยนแปลงมัน แทนที่จะทนอยู่กับสิ่งที่คุณยอมรับไม่ได้นั่นแหละ
13. คุณไม่เอาแต่บ่น แต่สนใจว่าอะไรคือวิธีแก้ปัญหา
ทุกๆ วันเราล้วนเจอแต่ปัญหามากมาย สิ่งแรกที่เรามักทำกัน คือการบ่นระบายอารมณ์ออกมา แต่มีไม่กี่คนจะพย าย าม คิดหาวิธีแก้ไข หาคำตอบในสิ่งที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
การที่คุณตั้งทัศนค ติที่จะพย าย ามหาทางแก้ไขมันก็ถือเป็นความสำเร็จอีกอย่ างหนึ่งของชีวิตแล้ว เพราะนั่นคือ ทัศนคติเริ่มต้นของคนที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตได้นั่นเอง
14. คุณไม่โทษพ่อแม่ แต่ยอมรับในสิ่งที่พวกเขาเป็น
คนจำนวนมา กมักบ่นถึงความ “ไม่สมบูรณ์” ของพ่อแม่ตัวเอง บ้างก็บอกว่าขี้บ่น บ้างก็บอกว่าไม่รู้เรื่อง ไม่ทันโลก หัวเก่า ฯลฯ แต่คุณต้องรู้ว่าคุ ณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพวกเขาได้หรอก(ย้อนกลับไปข้อ 12)
ฉะนั้นคุณต้องรู้จักยอมรั บกับสิ่งที่มันเป็น ผมเองก็ต้องยอมรับว่าสมัยก่อนผมก็มักหงุดหงิดกับหลายๆ เรื่องของพ่อแม่ (เมื่อผมไปเทียบ กับพ่อแม่เพื่อนบางคน) แต่ถึงจุดหนึ่งผมมามองย้อนกลับไป พวกเขาก็เป็นคน ที่เรามาด้วยทั้งชีวิต
แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ดีเลิศสมบูรณ์ 100% แม้หลายๆ อย่ างอาจจะไม่ได้ดั่งใจ แต่นั่นก็ดีเสียกว่า ไม่มีพวกเขา พอคิดได้แบบนี้แล้ว คุณก็จะรู้สึกว่าครอบครัวของคุ ณมีดีกว่าเดิมเยอะเลยล่ะครับ
15. คุณหยุดแคร์ว่า คนอื่นจะพูดถึงคุณอย่ างไร
คนทั่วไปมักพย าย ามเช็คตัวเองกับคนอื่นเพราะ กลัวว่าตัวเองจะถูกมองไม่ดีจากคนนั้นคนนี้ (ผมเองก็ยังเป็นเลยฮะ) และนั่นทำให้ชีวิตคุณ ต้องไปติดกับอะไรหลายๆ อย่ างโดยไม่จำเป็น แต่เมื่อไรก็ตามที่คุณสามารถสลัดความคิด และการแคร์คนอื่นมากเกินไปออกได้แล้ว คุณจะรู้สึกว่าชีวิตคุณดีขึ้ นเยอะมาก (และเชื่อเถอะว่าหลายๆ คนยังทำไม่ได้)
ฉะนั้น ถ้าคุณสามารถเลิกคิดเรื่องว่าคนอื่นจะมองคุณอย่ างไรได้แล้ว ก็คงต้องขอยินดีด้ว ยแหละครับ (แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ว่าเลิกแคร์ไปทุกอย่ างแล้วทำอะไรก็ได้นะฮะ